ความหมายของคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่านและบันทึกข้อมูลตลอดจนรับคำสั่งเพื่อแก้ไขปัญหาหรือคำนวณที่สลับซับซ้อนแสดงผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมีไว้สำหรับผ่อนแรงกายและสมองของมนุษย์ความสำคัญของคอมพิวเตอร์ประการหนึ่งก็คือความสามารถประมวลผลข้อมูลได้อนุมัติตามโปรแกรมที่มนุษย์ป้อนคำสั่งให้ทำและแสดงผลลัพธ์ออกมาทางอุปกรณ์แสดงผลโดยผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลคือข้อมูลหรือสารสนเทศ (information)

ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์

ปัจจุบันคอมพิวเตอร์สามารถนำมาเชื่อมต่อกันเพื่อให้ผู้ที่อยู่ห่างไกลสามารถเข้ามาใช้และแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ง่ายเช่นเชื่อมต่อผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตหน่วยงานหรือบริษัทก็นำคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานเช่นควบคุมและตรวจสอบสินค้าบันทึกข้อมูลและเรียกดูประวัติของนักเรียนนักศึกษาดูแลระบบให้บริการลูกค้าเป็นต้น
คอมพิวเตอร์มีบทบาทและความสำคัญกับชีวิตประจำวันของมนุษย์แทบทุกสายงานที่ต้องนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในงานโดยสังเกตได้จากคำศัพท์ที่มีคำนำหน้าด้วยตัวอักษรย่อ E (Electronic) มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเช่น
E-Banking ธนาคารอีเลคทรอนิค
E-Service บริการออนไลน์
E-Learning การเรียนการสอนผ่านอิเล็กทรอนิกส์
E-Government การพัฒนาด้านสังคมการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ประโยชน์ในการบริการ
ตัวอย่างประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ที่นิยมเอาไปใช้ในงานด้านต่างๆ
1 คอมพิวเตอร์กับการใช้งานของรัฐ 2 คอมพิวเตอร์กับงานธุรกิจทั่วไป
3 คอมพิวเตอร์กับงานสายการบิน 4 คอมพิวเตอร์กับงานด้านการศึกษา
5 คอมพิวเตอร์กับธุรกิจการนำเข้าและส่งออกสินค้า 6 คอมพิวเตอร์กับงานธนาคาร
7 คอมพิวเตอร์กับงานทางวิทยาศาสตร์ 8 คอมพิวเตอร์กับงานการแพทย์

ประเภทของคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์มีลักษณะที่แตกต่างกันตามลักษณะการใช้งานการจำแนกประเภทของคอมพิวเตอร์สามารถทำได้หลายรูปแบบซึ่งคอมพิวเตอร์โดยทั่วไปอาจจำแนกประเภทออกได้ 2 กลุ่มดังนี้
1.แบ่งตามลักษณะของข้อมูล มี 3 ประเภท คือ
  แอนะล็อกคอมพิวเตอร์ (analog computer)
เป็นคอมพิวเตอร์ที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษใช้กับงานเฉพาะอย่างการทำงานใช้หลักการวัดข้อมูลที่ป้อนเข้าไปต้องเป็นสัญญาณไฟฟ้าที่มีค่าต่อเนื่องซึ่งค่าสัญญาณไฟอาจแทนอุณหภูมิความเร็วหรือความดันการรับข้อมูลจะรับจากแหล่งที่เกิดโดยตรงและแสดงผลลัพธ์ออกมาทางจอภาพหรืออ่านค่าได้จากเครื่องวัดความละเอียดถูกต้องในการคำนวณน้อยกว่าดิจิทัลคอมพิวเตอร์ ไม่สามารถเก็บข้อมูลเป็นจำนวนมากเหมือนกับดิจิตอล ได้แก่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ตรวจสอบสภาพอากาศและคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในวงการแพทย์เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ตรวจสายตาเช่นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ตรวจคลื่นสมองเป็นต้น
  ดิจิทัลคอมพิวเตอร์ (digital computer)
เป็นคอมพิวเตอร์ที่ทำงานโดยใช้หลักการนับข้อมูลที่ป้อนเข้าไปต้องเป็นตัวเลขและให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นตัวเลขดิจิ ทัล คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่มีอุปกรณ์ชิ้นส่วนต่างๆเป็นมาตรฐานเดียวกันใช้กับงานได้หลายประเภทมีความละเอียดถูกต้องในการคำนวณมากกว่าแอนะล็อกคอมพิวเตอร์สามารถเก็บข้อมูลได้เป็นจำนวนมากจึงต้องใช้สื่อในการเก็บข้อมูลเช่นงานบัญชีงานงบประมาณการคำนวณเปรียบเทียบหรือหาค่าต่างๆทางสถิติเป็นต้น
  ไฮบริดคอมพิวเตอร์ (Hybrid Computer) 
เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้กับงานเฉพาะด้าน มีประสิทธิภาพสูงและสามารถทำงานที่ซับซ้อนได้ เนื่องจากการนำเทคนิคการทำงานของอนาลอกคอมพิวเตอร์และดิจิทัลคอมพิวเตอร์มาใช้งานร่วมกัน เช่น การส่งยานอวกาศขององค์การนาซา จะใช้เทคนิคของอนาลอกคอมพิวเตอร์ในการควบคุมการหมุนของตัวยานอวกาศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความกดดันอากาศ อุณหภูมิ ความเร็ว และใช้เทคนิคของดิจิทัลคอมพิวเตอร์ในการคำนวณระยะทางจากพื้นผิวโลก เป็นต้น
2.แบ่งตามขนาดความสามารถ มี 5 ประเภท คือ
     

     ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (supercomputer)

เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง แต่จะมีราคาแพงที่สุดรวมทั้งต้องอยู่ทีห้องได้รับการควบคุมอุณหภูมิ และปราศจากฝุ่นละอองทำให้ต้องเป็นองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้นจึงสามารถจัดหาเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์มาใช้งานได้  ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์สามารถใช้งานได้จำนวนหลาย ๆ คน นำมาใช้ในการคำนวณที่ซับซ้อนเช่นการคำนวณทางวิทยาศาสตร์ การบิน อุตสาหกรรมน้ำมันเป็นต้นรวมทั้งพบมากในวงการวิจัยในห้องปฎิบัติการต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน

      ซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นแรกสร้างในปี ค.ศ 1960 ที่องค์กรของสหรัฐอเมริกาโดยได้รับการออกแบบให้เป็นคอมพิวเตอร์ที่ความเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุดซูเปอร์ทำงานได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีการใช้หลักทีเรียกว่ามัลติโปรเซสซิ่ง (Multiprocessing) อันเป็นใช้หน่วยประมวลผลจำนวนหลายตัวเพื่อทำให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานหลายงานพร้อมกันโดยที่งานเหล่านั้นมีความแตกต่างกัน งานที่ไม่เกี่ยวข้องหรืออาจจะเป็นงานที่มีขนาดใหญ่ที่ถูกแบ่งย่อยไปในประมวลผลแต่ละตัวก็ทำงานได้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์มีหน่วยประมวลกลางทั้งหมด 4 ตัวแต่ปัจจุบันคอมพิวเตอร์มีความพัฒนามากจึงทำให้มีหน่วยประมวลผลนับร้อยตัวทำงานพร้อมๆ กันความเร็วของซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะมีการวัดหน่วยเป็นนาโนวินาที (nanosecond) หรือเศษหนึ่งพันล้านวินาที และจิกะฟลอป (gigaflop) หรือการคำนวณหนึ่งพันล้านครั้งในหนึ่งวินาทีซึ่งคอมพิวเตอร์สามารถคำนวณได้ถึง 128 จิกะฟลอป และใช้เครื่องที่มี สายส่งข้อมูล (data bus) กว้าง 32 หรือ 64 บิต จากคุณสมบัติของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่าผู้ใช้ควรนำซูเปอร์คอมพิวเตอร์ไปใช้ในการคำนวณมากๆ เช่น งานด้านกราฟฟิกหรือการคำนวณทางด้านวิทยาศาสตร์ เป็นต้น


กะ
เมนเฟรมคอมพิวเตอร์   (Mainframe Computers)                                                                 เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะสูงมาก แต่ยังต่ำกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ คือปกติสามารถทำงานได้รวดเร็ว หลายสิบล้านคำสั่งต่อวินาที สำหรับสาเหตุที่ได้ชื่อว่า เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ก็เพราะครั้งแรกที่สร้างคอมพิวเตอร์ลักษณะนี้ได้สร้างไว้บนฐานรองรับ ที่เรียกว่า คัสซี่ (Chassis) โดยมีชื่อเรียกฐานรองรับนี้ว่า เมนเฟรมคอมพิวเตอร์  จะมีความเหมาะกับการใช้งาน ทั้งในด้านวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ และธุรกิจ โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมากๆ เช่น งานธนาคาร ซึ่งต้องตรวจสอบบัญชีลูกค้าหลายคน งานของสำนักงานทะเบียนราษฎร์ ที่เก็บรายชื่อประชาชนประมาณ 60 ล้านคน พร้อมรายละเอียดต่างๆ งานจัดการบันทึกการส่งเงิน ของผู้ประกับตนหลายล้านคน ของสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน คอมพิวเตอร์เมนเฟรม ที่มีชื่อเสียงมาก คือ เครื่องของบริษัท IBM
มินิคอมพิวเตอร์ (Minicomputer)                                                                                            เริ่มพัฒนาขึ้นใน ค.ศ 1960 ต่อมาจากบริษัท Digital Equipment Corporation หรือ DEC ได้ประกาศตัวมินิคอมพิวเตอร์ DEC POP-8 (Programmed Data Processor) ในปี ค.ศ 1965 ซึ่งได้รับความนิยมจากบริษัทหรือองค์กรที่มีขนาดกลางเพราะมีราคาถูกกว่าเมนเฟรมมากเครื่องมินิคอมพิวเตอร์จะใช้หลักการของมัลติโปรแกรมมิงเช่นเดียวกับเมนเฟรมโดยจะสามารถรองรับผู้ใช้ได้ประมาณ 200 คนพร้อม ๆ กันแต่สิ่งที่แตกต่างระหว่างเครื่องเมนเฟรมและเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ก็คือความเร็วในการทำงาน เนื่องจากเครื่องมินิคอมพิวเตอร์จะทำงานได้ช้ากว่าการควบคุมผู้ใช้งานต่าง ๆการะทำได้ในจำนวนที่น้อยกว่า รวมทั้สื่อที่เก็บข้อมูลต่าง ๆมีความจุไม่สูงเท่าเมนเฟรมดังนั้นเครื่องมินิคอมพิวเตอร์จึงจัดได้ว่ามินิคอมพิวเตอร์เป็นขนาดกลาง                                                                                 มโครคอมพิวเตอร์ (Microcomputer)                                                                                ไมโครคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็ก บางคนเห็นว่าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานส่วนบุคคล หรือเรียกว่า พีซี (Personal Computer : PC) สามารถใช้เป็นเครื่องต่อเชื่อมในเครือข่าย หรือใช้เป็นเครื่องปลายทาง (terminal) ซึ่งอาจจะทำหน้าที่เป็นเพียงอุปกรณ์รับและแสดงผลสำหรับป้อนข้อมูลและดูผลลัพธ์ โดยดำเนินการการประมวลผลบนเครื่องอื่นในเครือข่าย                               คอมพิวเตอร์มือถือ ( Handheld Computer)                                                                             เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กที่สุดเมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์ประเภทอื่น ๆ อีกทั้งสามารถพกพาไปยังที่ต่าง ๆ ได้ง่ายกว่า ประโยชน์ของการใช้คอมพิวเตอร์ประเภทนี้อาจนำไปใช้กับการจัดการข้อมูลประจำวัน การสร้างปฏิทินนัดหมาย การดูหนัง ฟังเพลง รวมถึงการรับส่งอีเมล์ บางรุ่นอาจมีความสามารถเทียบเคียงได้กับไมโครคอมพิวเตอร์ทีเดียว คอมพิวเตอร์ในกลุ่มนี้ที่รู้จักและนิยมกันอย่างดี เช่น ปาล์ม, พ็อกเก็ตพีซี เป็นต้นนอกจากนี้โทรศัพท์มือถือบางรุ่นก็มีความสามารถใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์มือถือในกลุ่มนี้ในแง่ของการรันโปรแกรมจัดการกับข้อมูลทั่วไป โดยใช้ระบบปฏิบัติการ Symbian หรือไม่ก็ Linux

คอมพิวเตอร์ยุคใหม่

   ในปัจจุบัน การใช้คอมพิวเตอร์มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆและนำมาใช้งานที่สลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้นจากเดิมบางหน่วย
งานในคอมพิวเตอร์มาช่วยงานด้านการพิมพ์เอกสารและงานสำนักงานโดยไม่คำนึงถึงการเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายแต่
ปัจจุบันได้พัฒนาให้สามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างทั่วถึงเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจึงสามารถโอนถ่ายข้อมูลถึง
กันได้อย่างรวดเร็วภายใต้ระบบการสื่อสารที่ดีขึ้นโดยเฉพาะบทบาทของเทคโนโลยีทางด้านอินเทอร์เน็ตที่ได้รับ
ความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบันทำให้การติดต่อสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ตามกรรมสามารถทำ
ได้อย่างง่ายดาย
    ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่มีการออกแบบปรับปรุงขนาดให้เล็กลงมีรูปแบบที่แปลกตาดีการออกแบบที่มีรูป
แบบภายนอกมีการเชื่อมต่ออุปกรณ์สมัยใหม่สามารถชมรายการโทรทัศน์สุดโรงภาพยนตร์ดังได้อย่างสมศักดิ์ศรี
สวยสมจริงเส้นกล้องดิจิทัล โทรศัพท์มือถือรวมถึงสื่อเก็บบันทึกข้อมูลแบบพกพาที่สามารถตอบสนองต่อความ
ต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างมากมายเช่นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คยุคใหม่นอกจาก คอมพิวเตอร์รูปแบบต่างๆสามารถ
จำแนกออกได้หลายแบบดังนี้
1.เดสก์ท็อป(Desktop) เป็นคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะที่ใช้ในสำนักงานหรือตามบ้านทั่วไปนิยมใช้สำหรับคนรายงาน
โรงภาพยนตร์ฟังเพลงเล่นอินเตอร์เน็ตเล่นเกมส์ปัจจุบันมีรูปแบบที่ดูสวยงามน่าใช้มากขึ้นและมีราคาถูกลง
2  โน้ตบุ๊คยุคใหม่(Notebook) เป็นขนาดเล็ก เป็นขนาดเล็กและ เป็นขนาดเล็กและบางลงนั้นน่ะ เป็นขนาดเล็ก
และบางลงน้ำหนักเบาเพียง 1 กิโลกรัม เป็นขนาดเล็กและบางลงน้ำหนักเบาเพียงเนื่องจาก เป็นขนาดเล็กและ
บางลน้ำหนักเบาเพียงเนื่องจากใช้จอแสดงผลขนาด 11.1 นิ้วและใช้ Optical Drive แบบภายนอกแทนที่จะอยู่
ในตัวเครื่องทำให้สามารถพกพาได้สะดวกมากขึ้น
3.เดสก์โน๊ต หรือพาวเวอร์โน๊ต เป็นคอมพิวเตอร์พกพาที่มีลักษณะคล้ายกับคอมพิวเตอร์ Notebook
ลักษณะของเดธโน๊ตเปรียบเสมือนการย่อส่วน 2 ซีซีที่ใช้เงินตามบ้านหรือสำนักงานในปัจจุบันให้มีขนาดเล็ก
ลงสะดวกในการเคลื่อนย้ายหรือนำติดตัวไปใช้งานในสถานที่ต่างๆได้
4.แท็บเล็ต เป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีขนาดเล็กพกพาง่ายน้ำหนักเบามีคีย์บอร์ดในตัวหน้าจอเป็นระบบสัมผัส Touch Screen ปรับหมุนจอได้อัตโนมัติแบตเตอรี่ใช้งานได้นานวัตถุประสงค์เพื่อทดแทนสมุดหรือกระดาษปัจจุบันมีหลายบริษัทได้ให้คำจำกัดความที่แตกต่างกันไปและกลับมี 2 ความหมายคือแท็บเล็ตพีซีและแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์

  • แท็บเล็ตพีซี (Tablet PC)

แท็บเล็ตพีซีคือเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่สามารถพกพาและใช้ปากกาเขียนลงบนหน้าจอหรือมีหน้าจอสัมผัสในการทำงานออกแบบให้สามารถทำงานได้ด้วยตัวเองโดยจะต้องมีซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อใช้ในเครื่องแบบนี้โดยเฉพาะและรูปแบบของคลื่นสามารถปิดหน้าจอได้ค่อนข้างแพงกว่า Notebook และ Death Note ซึ่งเป็นแนวคิด Myanmar หลังจากทาน Microsoft ได้เปิดตัว Microsoft แท็บเล็ตพีซีในปีพ. ศ. 2001 แต่หลังจากนั้นก็เงียบหายไปและไม่เป็นที่นิยมมากนักแท็บเล็ตพีซีไม่หมุนกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือ laptop ตรงที่อาจจะไม่มีแป้นพิมพ์ในการใช้งานแต่ใช้แป้นพิมพ์เสมือนจริงในการใช้งานแพนแท็บเล็ตพีซีทุกเครื่องจะมีอุปกรณ์ไร้สายสำหรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและระบบเครือข่ายภายในระบบ ทั้งที่เป็น Windows และ Android

  • แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ (tablet computer)

คือคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้ในขณะเคลื่อนที่ได้มีขนาดกลางและใช้หน้าจอสัมผัสในการทำงานเป็นอันดับแรกมี
คีย์บอร์ดเสมือนจริงหรือปากกาดิจิทัลในการใช้งานแพนที่เป็นแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดและมีความหมายครอบคลุมถึง
Notebook แบบ Convertible ที่มีหน้าจอแบบสัมผัสและมีแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดติดมาด้วยไม่ว่าจะเป็นแบบนี้หรือแบบ
สไลด์ก็ตามซึ่งทางบริษัท Apple ผู้ผลิต iPad ได้เรียกอุปกรณ์ของตนเองว่าแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์เครื่องแรกจนถึง
ไอแพดแอร์ และ ไอแพดมินิ
ความแตกต่างระหว่าง Tablet PC กับ Tablet Computer
   เริ่มแรกแท็บเล็ตพีซีจะใช้หน่วยประมวลผลกลางหรือซีพียูที่ใช้สถาปัตยกรรม x86 ของ Intel เป็นพื้นฐานพื้น
และ เป็นพื้นฐานพื้นฐานและมีความปรับแต่งหน้า OS ของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือ Personal Computer
- PC มาทำให้สามารถใช้การสัมผัสในการทำงานได้อย่างเช่น Windows 7 หรือ Booster Linux แทนที่
จะใช้แป้นพิมพ์คีย์บอร์ดหรือเมาส์และเนื่องจากเป็นการรวมกันระหว่างระบบปฏิบัติการ Windows
และหน่วยประมวลผลกลางหรือ CPU ของ Intel ทำให้เรียกกันว่า Wintel
   ต่อมาในปีคศ 2010 ได้เกิดแท็บเล็ตที่แตกต่างจากแท็บเล็ตพีซี  ขึ้นมาโดยไม่มีการยิงยึดติดกับ Wintel
แต่ไปใช้ระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์เคลื่อนที่แทนคือแทบ คือแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์หรือ เรียกสั้นๆว่าแท็บเล็ต
ซึ่ง ใช้หน้าจอแบบ Capacitive แทนที่ Resistive ทำให้สามารถสัมผัสโดยการใช้นิ้วได้โดยตรงและ สัมผัสพร้อม
กันทีละหลายจุดได้ หรือ Multi-Touch ประกอบหลักการใช้หน่วยประมวลผลกลางหรือ CPU ที่ใช้สถาปัตยกรรม
a r n แทน ซึ่งสถาปัตยกรรม a r n ที่ทำให้แท็บเล็ตนั้นมีการใช้งานได้ยาวนานกว่าสถาปัตยกรรม x86 ของเอเชีย
ซึ่งแท็บเล็ตตัวนี้ก็คือ iPad
Post-PC Operating Systems

  ปัจจุบันมีความนิยมในการใช้แท็บเล็ตสูงขึ้นเรื่อยๆทำให้เกิดการแข่งขันและการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับ
แท็บเล็ตขึ้นมาเฉพาะโดยไม่ได้ตามเทคโนโลยีของ PC หรือ pda เหมือนในอดีตไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมด้าน
ระบบฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ต่างมีผู้ผลิต Operating system  ของตัวเองมาแข่งขันไม่ว่าจะเป็นไป Windows
ก็พยายามจะรักษาตลาดเดิมของ Pocket PC เอาไว้นอกจากนี้ Apple ผู้ผลิต iPad เป็นผู้สร้างแรงกระตุ้นให้เกิด
การใช้งานแท็บเล็ตอย่างแพร่หลายในปัจจุบันก็มี iOS ที่พัฒนาสำหรับแท็บเล็ตโดยเฉพาะและมีจุดแข็งในการผลิต
ฮาร์ดแวร์เองทำให้ OS สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนอกจากนี้คู่แข่งสำคัญอย่าง Google ก็มี
Android OS ที่มีจุดแข็งในการเปิดให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อื่นๆสามารถนำ Android OS ไปใช้ได้กับฮาร์ดแวร์ของ
ตนนอกจากนี้ยังมีผู้ผลิตหลายลายที่พยายามสร้าง OS ของตนเองขึ้นมาเพื่อใช้งานกับแท็บเล็ตของตนเองเช่น
Blackberry แท็บเล็ต   o s OS OS OS ที่ ที่อิงระบบ qms ที่อิงระบบ QNX หรือ HP ที่พยายามสร้าง
webOSเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดแต่ทำไม่สำเร็จอย่างไรก็ตามแท็บเล็ตยังมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
และต่อเนื่องในอนาคตแท็บเล็ตจะเป็นมากกว่ากระดานชนวนอิเล็กทรอนิกส์แต่จะเป็นบรรจุเทคโนโลยีมากมาย
อีกทั้งความสามารถด้านการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายได้อย่างรวดเร็วทำให้ความสามารถของแท็บเล็ตเปิดกว้าง
มากยิ่งขึ้น



ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ (tablet computer)

PDA : พีดีเอ (Personal Digital Assistants)

PDA : พีดีเอ (Personal Digital Assistants) อุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการจดบันทึกเก็บข้อมูลเตือนเวลานัดหมายหรือจัดการงานต่างๆได้สะดวกและรวดเร็วรวมไปถึงความสามารถของการเพิ่มเติม Application เพื่อให้ใช้งานด้านอื่นๆได้เหมาะสมกับความต้องการยิ่งขึ้นเช่นดูเวลารอบโลกอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราดูหนังสือพิมพ์ออนไลน์บันทึกรายการรายการจ่ายแม้แต่ในเรื่องของมัลติมีเดีย และ และความบันเทิงเช่น และความบันเทิงเช่นดู และความบันเทิงเช่นดูภาพยนตร์ pda แยกออกได้หลายประเภทตามลักษณะการใช้งานและปฏิบัติการที่ถูกติดตั้งอยู่ในเครื่อง pda นั้นๆซึ่งหลักๆที่รู้จักก็จะมี pda ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Palm OS หรือที่เรียกว่า Palm และ PDA ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Microsoft  Windows Mobile หรือที่เรียกกันว่าพ็อกเก็ตพีซี (Pocket PC)นั่นเองนอกจากนี้ยังมี pda Phone ซึ่งเป็นวีดีโอที่สามารถใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้ด้วย

สมาร์ทโฟน (Smart Phone)

      สมาร์ทโฟน (Smart Phone)  คือการพัฒนาโทรศัพท์มือถือให้กลายเป็นอัจฉริยะนอกจากรับสายเข้าหรือโทรออกแล้วยังสามารถถ่ายรูปเล่นอินเตอร์เน็ตเล่น LINE Facebook รับส่งอีเมลเล่นเกมหรือเป็นเครื่องเล่น MP3 รวมทั้งสามารถใช้โปรแกรม internet explorer Firefox for Android  Google Chrome ท่องเว็บด้วยสมาร์ทโฟนและเพิ่มความสามารถในมือถือด้วยการติดตั้งโปรแกรมเสริมมื้ออื่นสิ่งเหล่านี้ถูกย่อให้อยู่ในรูปแบบของมือถือ
สมาร์ทโฟนสามารถแบ่งตามประเภทของระบบปฏิบัติการ (Operation System :OS)  ได้หลักๆ 5 ประเภทดังต่อไปนี้ iOS Android Windows Phone Symbian OS และอื่นๆ
1 iOS คือระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาโดยบริษัทแอปเปิ้ล ซึ่งใช้ในการผลิตของบริษัท Apple เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารภายใต้ยี่ห้อ Apple เช่น iPhone iPad iPod
ข้อดี คือ มี Application หลากหลายโดยมีบริการแอพสโตร์และโปรแกรม iTunes สนับสนุนการจัดการอุปกรณ์มีเมนูการใช้งานรวดเร็วและเข้าใจง่ายในโปรแกรม web browser ตอบสนองความต้องการรวดเร็ว
ข้อเสีย คือ ผู้ใช้งานไม่สามารถออกแบบปรับเปลี่ยนหน้าจอได้ตามความต้องการและไม่สามารถทำงานได้พร้อมพร้อมกันหลายอย่างเช่นไม่สามารถฟังเพลงพร้อมเปิดเว็บบราวเซอร์เพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตได้
2 Android เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดยบริษัท Google ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการแบบ Open source คือแบบเปิดหรือแบบ Free ดังนั้นผู้ผลิตบริษัทเคลื่อนที่และแท็บเล็ตนิยมนำระบบปฏิบัติการ Android ไปใช้เป็นระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์มือถือ เช่น Samsung ในตระกูล Galaxy HTC เป็นต้น
ข้อดี คือเป็นมาตรฐานเปิดทำให้เกิดความหลากหลายและมี Application ให้เลือกใช้มากมายสามารถเชื่อมต่อกับบริการต่างๆของ Google ได้สะดวกเช่น Gmail Google Tag Google Map และ Google search English
ข้อเสีย คือไม่คล่องตัวเท่า iOS และการที่เป็นระบบเปิดทำให้มีอุปกรณ์ที่ใช้ระบบมีหลายยี่ห้อและหลายขนาดหน้าจอทำให้แอพพลิเคชั่นต่างๆต้องพัฒนาให้สามารถใช้งานได้เฉพาะรุ่นเท่านั้นเนื่องจากอาจเกิดปัญหาเรื่องความกว้างของหน้าจอเป็นต้น
3 Windows Phone คือระบบปฏิบัติการของบริษัท Microsoft ออกแบบมาเพื่อรองรับอุปกรณ์บนมือถือประเภท Smart Phone หรือTablets ปัจจุบันจะเป็นของ Nokia Lumia และคาดว่าในอนาคตนี้จะใช้กับอุปกรณ์หลายๆรุ่น
ข้อดี คือมีความแปลกใหม่งานเอกสารที่ใช้งานได้ดีด้วย Microsoft Office
ข้อเสีย คือความหมายของ Windows Phone ทำให้เกิดปัญหาการใช้งานจุกจิกมีจำนวน Application น้อยที่สุด
4 Symbian OS คือระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท Symbian โดยออกแบบสำหรับทำงานในโทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อ Nokia พัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับเทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สายและสามารถใช้กับโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นหลักในการรับส่งข้อมูลนอกจากนี้ยังเป็นระบบที่ใช้ง่ายประหยัดพลังงานใช้หน่วยความจำขนาดเล็กและมีความปลอดภัยสูงซึ่งทำให้เหมาะที่จะทำมาใช้กับโทรศัพท์เคลื่อนที่ สำหรับโทรศัพท์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ S Y M b i a n OS เช่น Nokia 3650 Nokia 6600 Sony
5 อื่น ๆ เช่น Blackberry เป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาโดยบริษัทอาร์เอ็มซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารภายใต้ยี่ห้อ Blackberry
ข้อดี คือเป็นระบบปฏิบัติการที่มีการรักษาความปลอดภัยสูงนิยมใช้งานในเชิงธุรกิจเป็นหลักสามารถบริการจัดการพลังงานแบตเตอรี่ได้ดี
ข้อเสีย คือโปรแกรม web browser ทำงานช้า Application มีให้เลือกใช้งานน้อยและมีค่าใช้จ่ายในการดาวน์โหลดค่อนข้างสูงรวมทั้งไม่สามารถดาวน์โหลดหรือฟังเพลงออนไลน์ได้

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ตัวอย่างวิวั๖นาการมือถือ ประเภท สมาร์ทโฟน

คอมพิวเตอร์ในอนาคต

     คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อทำงานแทนมนุษย์ มนุษย์เรียกคอมพิวเตอร์ว่าสมองกล เพราะคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องจักรที่สร้างขึ้นมาให้คิดคำนวณแทนมนุษย์ อีกทั้งยังสามารถทำงานอย่างอื่นที่ต้องการใช้งาน เช่น โยงข้อมูลเข้าด้วยกัน หาข้อมูลในเว็บ ตรวจตัวสะกดและไวยากรณ์ วินิจฉัยโรค เป็นต้น ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ทำงานเหล่านี้ได้ดีมาก ในอนาคตคอมพิวเตอร์ไม่ได้หยุดเพียงแค่ให้มีขนาดเล้ก ราคาถูก หรือรูปลักษณ์แปลกที่น่าใช้เท่านั้น หากแต่ยังพยายามคิดค้นและพัฒนาขีดความสามารถพัฒนาขีดความสามารถให้ไกล้เคียงกับมนุษย์มากขึ้น ศาสตร์ทางด้านปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial Intelligence) ได้เข้ามามีบทบาทในการสร้างปัญญาเทียมเลียนแบบการคิดหรือสมองของมนุษย์ วึ่งในงานหลาย ๆ ด้านก็มีการประยุกต์คอมพิวเตอร์เข้าไปใช้เพื่อคิดและตัดสินใจปก้ปัญญาต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น การประดิษฐ์หุ่นยนต์เพื่อช่วยในงานด้านต่าง ๆ ของมนุษย์ เป็นต้น